ผู้เขียน https://www.longzanam.com
'ดาร์วิน นูนเญซ' ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย กำลังถูกจารึกชื่อในฐานะหนึ่งในนักเตะที่มีค่าตัวมหาศาลในการย้ายทีมหลัง ลิเวอร์พูล กับ เบนฟิก้า บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่ตัวเลข 100 ล้านยูโร
นูนเญซ แจ้งเกิดเต็มตัวในการเล่นให้ เบนฟิก้า ฤดูกาลล่าสุด ทำให้ได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ก่อนสุดท้ายเป็น “หงส์แดง” ที่เข้าป้ายคว้าตัวมาครองหลังยอมทุ่มเป็นสถิติสโมสร
ลิเวอร์พูล จ่ายเบื้องต้น 80 ล้านยูโร และจะเพิ่มอีก 20 ล้านยูโร สำหรับผลงานในอนาคต ก่อนเซ็นสัญญายาว 6 ปีค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์
การย้ายทีมของหัวหอกที่กำลังอายุครบ 23 ปีในปลายเดือนนี้ ทำกำไรมหาศาลให้กับ เบนฟิก้า ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทีมจอมปั้น (แล้วขาย) ของโปรตุเกส และของยุโรป
2 ปีที่แล้ว “เหยี่ยวลิสบอน” ทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร 24 ล้านยูโร ดึง นูนเญซ มาจาก อัลเมเรีย ในลีกสเปน แต่วันนี้พวกเขาฟันกำไรถึง 4 เท่าในการปล่อยสมบัติล้ำค่าชิ้นล่าสุดออกจากทีม
ดาร์วิน นูนเญซ ไม่ใช่รายแรกและรายสุดท้ายที่คืนทุนมหาศาลให้ เบนฟิก้า วันนี้เราจะย้อนกลับไปดูอีกครั้งว่ามีใครกันบ้างที่สโมสรแห่งนี้ขายออกไปด้วยค่าตัวก้อนโตกันบ้าง
1. ชูเอา เฟลิกซ์ (126 ล้านยูโร ไป แอตเลติโก มาดริด)
เฟลิกซ์ เคยเป็นเด็กฝึก ปอร์โต้ มาก่อน จากนั้นจึงมาอยู่กับ เบนฟิก้า ในปี 2015 และขึ้นชุดใหญ่เต็มตัวในฤดูกาล 2018/19
เพียงแค่ฤดูกาลแรกก็ดังเป็นพลุแตกทันทีจากผลงาน 20 ประตูใน 43 นัดทุกรายการซึ่งรวมถึงแฮตทริกในยูโรปา ลีก นัดชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต 4-2 ด้วยวัยเพียง 19 ปี 152 วันอันเป็นสถิติอายุน้อยสุดของรายการ
แอตเลติโก มาดริด ทีมดังขอสเปน ตัดสินใจทุ่มเงินก้อนโต 126 ล้านยูโร กระชากตัว เฟลิกซ์ มาร่วมทีมในซัมเมอร์ 2019 ซึ่งนับว่าเป็นการเดิมพันที่ “เสี่ยง” กับนักเตะที่อายุไม่ถึง 20 ปี และเล่นในลีกสูงสุดโปรตุเกสได้เพียงปีเดียว
ผ่านมา 3 ฤดูกาลในสีเสื้อ “ตราหมี” เฟลิกซ์ ลงสนามไปแล้วทั้งหมด 110 นัด ทำได้ 30 ประตู แม้จะไม่คุ้มค่าค่าตัวมหาศาลที่สโมสรจ่ายไป แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นซึ่งยืนยันได้จากรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรประจำฤดูกาลล่าสุด
2. รูเบน ดิอาส (68 ล้านยูโร ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกสอยู่กับ เบนฟิก้า มาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ก่อนขึ้นชุดใหญ่ระหว่างปี 2017 ถึง 2020 ที่ลงสนามรวม 137 นัด จากนั้นโยกมาพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2020 ด้วยค่าตัว 68 ล้านยูโร
ดิอาส ตอบแทนเม็ดเงินที่ แมนฯ ซิตี้ ลงทุนไปได้อย่างคุ้มค่ากับการช่วยเกมรับของทีมให้แข็งแกร่ง เหนียวแน่นขึ้นในทันที เขาพาทีมทวงแชมป์พรีเมียร์ลีกกลับคืนมาจาก ลิเวอร์พูล รวมถึงเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นสมัยแรก
ฤดูกาลแรกในลีกที่หินโหด ดิอาส คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวฟุตบอลมาครอง โดยเอาชนะแข้งดังทั้ง แฮร์รี่ เคน และเพื่อนร่วมทีม เควิน เดอ บรอยน์ แถมยังเป็นกองหลังคนแรกในรอบมากกว่าสามสิบปีที่ได้รางวัลนี้ต่อจาก สตีฟ นิโคล อดีตแนวรับ ลิเวอร์พูล
3. เอแดร์ซอน (40 ล้านยูโร ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เอแดร์ซอน เป็นอีกรายที่เคยอยู่ในทีมเยาวชนของ เบนฟิก้า มาก่อน แต่ถูกปล่อยตัวออกจากทีมและไปสร้างชื่อกับ ริโอ อาฟ จนนำทางให้ได้กลับสู่รัง “เหยี่ยวลิสบอน” อีกครั้งเมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัวเพียง 5 แสนยูโร
สองฤดูกาลในทีมชุดใหญ่ เอแดร์ซอน ก็ทำผลงานจนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่เหนียวหนึบที่สุดของยุโรป และมากพอที่จะได้รับความเชื่อมั่นจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการเป็นมือหนึ่งคนใหม่ของ แมนฯ ซิตี้
นายทวารทีมชาติบราซิล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 5 ฤดูกาลกับ แมนฯ ซิตี้ ที่พลาดเฝ้าเสาในลีกรวมกันเพียง 8 นัด ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพ อีก 4 สมัย
ขณะที่ผลงานส่วนตัวก็ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง และได้ถุงมือทองคำจากการทำคลีนชีตมากสุดอีก 3 ครั้งซึ่งทั้งหมดทำได้ใน 3 ฤดูกาลหลังสุดที่ผ่านมา
4. อั๊กเซล วิทเซล (40 ล้านยูโร ไป เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก)
เบนฟิก้า ดึงตัว อั๊กเซล วิทเซล ในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการฟุตบอลเบลเยียม มาร่วมทีมในปี 2011 ขณะอายุเพียง 22 ปี
ในช่วงเริ่มต้นอาชีพ วิทเซล ประเดิมชุดใหญ่ให้ สตองดาร์ ลีแอช ทีมดังในบ้านเกิดตอนอายุ 17 ปี ก่อนได้ลงสนามทั้งหมด 183 นัด และย้ายสู่ เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวไม่ถึง 10 ล้านยูโร
กองกลางทีมชาติเบลเยียมเล่นให้ เบนฟิก้า ได้เพียงฤดูกาลเดียวก็ถูก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังของรัสเซียทุ่มเงิน 40 ล้านยูโร คว้าตัวไปร่วมทีม โดยปาดหน้าทีมใหญ่ทั่วยุโรปที่ให้ความสนใจเช่นกัน
ปัจจุบัน วิตเซล ในวัย 33 ปี เพิ่งหมดสัญญากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หลังค้าแข้งกับทีม 4 ปี และเคยโยกไปเล่นในลีกจีนช่วงสั้นๆ กับ เทียนจิน เอฟซี
5. ราอูล ฮิเมเนซ (38 ล้านยูโร ไป วูล์ฟแฮมป์ตัน)
ดาวยิงทีมชาติเม็กซิโกเริ่มต้นค้าแข้งในยุโรปกับ แอตเลติโก มาดริด เมื่อปี 2014 แต่ไม่สบความสำเร็จมากนัก และได้เล่นให้ทีมเพียงปีเดียวก่อนถูกปล่อยให้ เบนฟิก้า ในปี 2015
ในตอนนั้น เบนฟิก้า จ่ายค่าตัว ฮิเมเนซ ราว 9 ล้านยูโร แต่อีก 4 ปีต่อมาขายออกไปให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้ถึง 38 ล้านยูโร
ฮิเมเนซ เล่นให้ วูล์ฟส์ ในสัญญายืมตัวฤดูกาล 2018/19 ก่อนทำผลงานได้น่าประทับใจทำให้ทีม “หมาป่า” ซื้อขาดจาก เบนฟิก้า โดยปัจจุบันลงสนามให้ทีมไปแล้ว 146 นัด ทำได้ 54 ประตู และ 23 แอสซิสต์
…
นอกจาก 5 อันดับแรกขายออกแพงสุดแล้ว ยังมีแข้งดังอีกหลายคนที่ทำกำไรให้ เบนฟิก้า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น เนลซอน เซเมโด้ (35.7 ล้านยูโร), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (35 ล้านยูโร), เรนาโต้ ซานเชส (35 ล้านยูโร), อังเคล ดิ มาเรีย (33 ล้านยูโร), ฟาบิโอ โกเอนเตรา (30 ล้านยูโร) ฯลฯ
นี่เป็นเพียงบางส่วนที่ทำให้สโมสรแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นอีกทีมที่เชี่ยวชาญในการปั้นแล้วขายไม่แพ้ทีมใดในยุโรป
อัพเดทข่าวสารวงการกีฬาฟุตบอล บ้านผลบอล ผลบอล ผลบอลล่าสุด ผลบอลย้อนหลัง ผลบอลสด ผลบอลเมื่อคืน ผลบอล ผลฟุตบอลทั่วโลก พรีเมียร์ลีก ไทยลีก ฟุตบอลโลก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกและลีกดังอีกมากมาย อัพเดทสดใหม่ทุกวันจากสำนักข่าวต่างประเทศ รวมทั้ง ความรู้ขอบสนาม เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟุตบอล โพลต่างๆ ทั้งยังมีบทสัมภาษณ์นักเตะหรือโค้ช รวมไปถึงไฮไลต์การแข่งขัน ตอบโจทย์ทุกประเด็นสำหรับคอฟุตบอล เพื่อให้แฟนบอลไม่พลาดเกาะติดขอบสนามกันทุกสถานการณ์แบบทันท่วงที แบบวันต่อวัน ท่านจะได้รับข่าวสารกันไปเต็มๆได้ที่ LONGZANAM.COM
ติดตามเราเพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม
พร้อมทั้งลุ้นรับของขวัญมูลค่าสูงสุดกว่าสองหมื่นบาทฟรี! ติดตามเราตอนนี้เลย คลิก
